สูตรลับสู่การเป็นดาวเด่นในออฟฟิศ #สรุปหนังสือ How to Be a Star at Work | MM EP.2496

สูตรลับสู่การเป็นดาวเด่นในออฟฟิศ #สรุปหนังสือ How to Be a Star at Work | MM EP.2496

From 🇹🇭 Mission To The Moon, published at 2025-09-06 13:04

Audio: สูตรลับสู่การเป็นดาวเด่นในออฟฟิศ #สรุปหนังสือ How to Be a Star at Work | MM EP.2496

9 วิธีอัปเกรดตัวเองให้เป็นคนเก่งในที่ทำงาน

  1. ไอเดียหลักในประโยคเดียว

    • การจะเป็นคนทำงานที่โดดเด่น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราฉลาดแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับการสร้างนิสัยดีๆ อย่างการเป็นคนกล้าเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ และการนำเสนอผลงานของตัวเองให้เป็น
  2. ประเด็นสำคัญที่ต้องรู้

    • กล้าทำเกินหน้าที่: คือการไม่รอให้ใครสั่ง แต่มองหางานหรือปัญหาที่ยังไม่มีคนทำ แล้วอาสาเข้าไปช่วยจัดการ แม้จะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของเราก็ตาม
    • สร้างคอนเนคชั่น: คือการรู้จักคนเก่งๆ ในหลายๆ ด้าน เพื่อที่เราจะสามารถขอความช่วยเหลือหรือหาข้อมูลได้เร็วขึ้น เหมือนมีทีมซูเปอร์ฮีโร่ส่วนตัว
    • จัดการตัวเองให้เป็น: คือการรู้จักวางแผนงานของตัวเอง จัดลำดับความสำคัญ และปกป้องเวลาของตัวเองจากสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีสมาธิกับงานที่สำคัญจริงๆ
    • มองให้กว้างกว่าเดิม: คือการพยายามเข้าใจมุมมองของคนอื่น เช่น ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงานในแผนกอื่น จะทำให้งานของเราดีขึ้นและตอบโจทย์คนอื่นมากขึ้น
    • นำเสนอให้ปัง: ต่อให้ทำงานดีแค่ไหน แต่ถ้าเล่าให้คนอื่นฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่มีประโยชน์ การฝึกนำเสนอผลงานให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
    • เกร็ดน่ารู้ & ตัวเลขสำคัญ:
      • เรื่องจริง: พนักงานพาร์ทไทม์คนหนึ่งชื่อ Catherine Beth หาช่องโหว่ในระบบของรัฐเจอ และช่วยประหยัดเงินไปได้ถึง 489 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000 ล้านบาท!) จากการทำงานเกินหน้าที่
      • เรื่องจริง: คนที่เป็น Star Performer อาจมีรายได้มากกว่าเพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันถึง 2 เท่า, 5 เท่า หรือแม้แต่ 10 เท่า
      • เรื่องจริง: พนักงาน 90% ใช้เวลา 90% ของตัวเองในการเป็น "ผู้ตาม" และพวกเขาก็สร้างความสำเร็จให้องค์กรถึง 90% เช่นกัน
  3. คำพูดเด็ดๆ พร้อมคำอธิบาย

  • คำพูด: "> ถ้าคุณมี 10 นาที อย่าทำให้ 10 นาทีนั้นมันเป็นการไปอ่านสไลด์ ซึ่งคนจำนวนมากทำแบบนั้น"

    • หมายความว่า: เวลาพรีเซนต์งาน อย่าแค่ยืนอ่านสิ่งที่มีอยู่บนจอเฉยๆ เพราะใครๆ ก็อ่านเองได้ แต่เราควรอธิบายเพิ่มเติม หรือเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่อยู่เบื้องหลังข้อมูลนั้น
    • ทำไมถึงสำคัญ: โอกาสที่จะได้โชว์ผลงานกับคนสำคัญๆ มันมีน้อยมาก เราต้องใช้เวลานั้นให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการเตรียมตัวไปอย่างดี เพื่อให้คนฟังเข้าใจและเห็นว่าเราเก่งจริง
  • คำพูด: "> Star Performer เนี่ย จะมีความรู้สึกอยากออกไปล่าโอกาสพวกนี้... ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อเพื่อนร่วมงาน เพื่อแผนกของตัวเอง หรือเพื่อบริษัท"

    • หมายความว่า: คนที่ทำงานเก่งจริงๆ จะมองหางานหรือปัญหาที่ยังไม่มีใครทำ แล้วอาสาเข้าไปจัดการ ไม่ใช่เพื่อเอาหน้าคนเดียว แต่เพื่อช่วยให้ทีมและบริษัทดีขึ้น
    • ทำไมถึงสำคัญ: การคิดแบบนี้แสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจภาพรวมและมีความรับผิดชอบสูง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เรามีค่ากับองค์กรมากๆ และเติบโตได้เร็วกว่าคนอื่น
  1. เหตุผลหลัก (ว่าทำไม)

    1. อย่างแรก ผู้พูดชี้ว่าคนทำงานที่โดดเด่นมักจะเป็นคนที่ "อยู่ไม่นิ่ง" คือไม่รอให้ใครมาสั่ง แต่จะมองหาปัญหาและโอกาสที่จะทำให้งานดีขึ้นอยู่เสมอ
    2. ต่อมา พวกเขาจะสร้างเครือข่ายหรือคอนเนคชั่นกับคนอื่น เพื่อให้สามารถหาความรู้หรือความช่วยเหลือได้รวดเร็ว ทำให้ทำงานได้ฉลาดและเร็วกว่าคนอื่น
    3. จากนั้น พวกเขายังเข้าใจภาพรวมของงานทั้งหมด ไม่ได้มองแค่มุมของตัวเอง เช่น ถ้าเป็นคนเขียนโปรแกรม ก็จะคิดไปถึงว่าคนใช้จะรู้สึกยังไง
    4. สุดท้าย ผู้พูดบอกว่าทักษะอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น การเป็นผู้ตามที่ดี การเป็นผู้นำที่ไม่ต้องวางอำนาจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการนำเสนอผลงานของตัวเองให้คนอื่นเข้าใจ
  2. คำถามชวนคิด

    • ถาม: การเป็น "Star Performer" แปลว่าเราต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นตลอดเวลาเลยรึเปล่า?
    • ตอบ: จากในพอดแคสต์ เน้นไปที่การทำงานอย่าง "ฉลาด" มากกว่าแค่ "หนัก" ครับ คือการเลือกทำในสิ่งที่ส่งผลกระทบเยอะๆ กล้าเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ และรู้จักขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ซึ่งอาจจะต้องลงแรงมากขึ้นในบางครั้ง แต่หัวใจสำคัญคือการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง

    • ถาม: ถ้าคนส่วนใหญ่เป็น "ผู้ตาม" แปลว่าเราต้องเป็น "ผู้นำ" เท่านั้นถึงจะโดดเด่นได้ใช่ไหม?

    • ตอบ: ไม่เลยครับ ในพอดแคสต์บอกว่าการเป็น "ผู้ตามที่ยอดเยี่ยม" (Star Follower) ก็เป็นทักษะที่สำคัญมากเหมือนกัน คือการเป็นคนที่คิดวิเคราะห์เองได้ แต่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนผู้นำและทำงานเพื่อเป้าหมายของทีม ซึ่งต่างจากการเป็นผู้ตามที่รอรับคำสั่งอย่างเดียว
  3. เรื่องนี้สำคัญยังไง & น่ารู้อะไรต่อ

    • ทำไมเรื่องนี้ถึงน่าสนใจ: ถึงเราจะยังเรียนอยู่ แต่ไอเดียพวกนี้เอาไปใช้ได้เลยนะ การกล้าเสนอตัวทำโปรเจกต์กลุ่ม การรู้จักถามครูหรือเพื่อนที่เก่งๆ เวลาไม่เข้าใจ หรือการฝึกพรีเซนต์หน้าห้องให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะทำให้เราเรียนได้ดีขึ้นและโดดเด่นกว่าใคร แถมยังเป็นการเตรียมตัวสำหรับโลกการทำงานในอนาคตด้วย
    • ไปหาความรู้ต่อ: ลองดู TED Talk ของ Angela Lee Duckworth เรื่อง "Grit: พลังของความชอบและความเพียร" ใน YouTube (มีซับไทย) จะได้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์อย่างเดียว แต่มาจากการไม่ยอมแพ้ ซึ่งคล้ายกับแนวคิดในพอดแคสต์นี้เลย

Summaries in other languages: